รีวิวแต่งงานเรียบหรูดุจดังเทพนิยาย

วลาดิเซีย (Vala De Cia) เป็นสถานที่จัดงานแต่งงานย่านกัลปพฤกษ์ที่มีสไตล์โด่นเด่น หรูหรา มีระดับ ด้วยสถาปัตยกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะแบบบาโรก ในยุคคริสต์ศตวรรษที่ 17 เต็มไปด้วยความประณีตวิจิตร ในทุกองศา ทำให้การจัดงานแต่งงานที่นี่ เปรียบประหนึ่งกับการได้จัดงานท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติก ดุจจินตนาการในปราสาทยุโรป และ ธีมงานแต่งงานที่ Weddinglist พาชมในวันนี้มาในธีม “Entchanted Forest” งานแต่งงานของ คุณพีท&คุณฝัน ได้รับเกียรติจากบ่าวสาวส่งต่อความประทับใจรวมไปถึงเคล็ด(ไม่)ลับสำหรับคู่รักที่กำลังเตรียมตัวแต่งงานอยู่ บรรยากาศภายในงานจะเป็นอย่างไร และ ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างเชิญรับชมกันได้เลยค่ะ 

จุดเริ่มต้นการวางแผนแต่งงานของคุณพีท&คุณฝัน
คุณพีท&คุณฝัน : พวกเราเริ่มต้นวางแผนและเตรียมงานแต่งงานตั้งแต่ต้นปี 2565 (หลังครอบครัวฝ่ายชายได้มาขอฝ่ายหญิงที่บ้านอย่างเป็นทางการ) โดยเริ่มจากการหาข้อมูลการวางแผนการแต่งงานจากบทความแต่งงานตามเว็บไซต์ต่าง ๆ เพจหรือสื่อ Social อย่าง Facebook Instagram ที่มีรีวิวเกี่ยวกับเตรียมตัวแต่งงาน รวมถึงดู YouTube (YouTube ช่องคุณมายด์พิธีกรช่วยให้ข้อมูลเยอะมาก) และ สอบถามจากเพื่อนหรือคนรู้จักที่มีประสบการณ์จัดงานแต่งมาก่อนหน้านี้

คุณพีท&คุณฝัน : หลังจากที่พวกเราได้ศึกษาขั้นตอนการเตรียมตัวจัดงานแต่งงานคร่าว ๆ เรียบร้อยแล้ว เราพบว่าการจะจัดงานแต่งงานหนึ่งครั้งให้ออกมาดีมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะมาก ๆ รวมถึงปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่เราควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ ดังนั้นเราจึงวางแผนล่วงหน้าและทำการบ้านหนักมาก จากที่ได้ศึกษามาเราจึงตัดสินใจที่จะจัดงานแต่งงานแบบพิธีหมั้นเช้า ฉลองเที่ยงถึงเย็น (งานของเรามี After party ตบท้ายแม้ส่วนตัวไม่ใช่สายดื่มแต่อยากให้งานออกมาทำให้แขกได้สนุกสนานระหว่างช่วง After party) วันเดียวจบเพราะมีแขกหลายท่านเดินทางไกลมาจากต่างจังหวัด และ ต่างประเทศ เพื่อให้พวกท่านสามารถกลับได้เลยโดยไม่ต้องหาที่พัก สิ่งแรกที่เราควรโฟกัสจึงเป็นเรื่องของการหาข้อมูลสถานที่จัดงานแต่งงาน

คุณพีท&คุณฝัน : ซึ่งเราเริ่มค้นหาสถานที่สำหรับงานแต่งหลังจากได้ฤกษ์และวันจากผู้ใหญ่ของพวกเราทั้งสองฝ่าย ช่วงที่เราเริ่มวางแผนแต่งงาน ยังเป็นช่วงที่ Covid 19 ระลอกใหม่กำลังระบาดอยู่ ทำให้เราต้องพิจารณาถึงสถานที่จัดงานแต่งอย่างละเอียด (ผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายค่อนข้างมีอายุมากแล้วจึงได้โจทย์มาว่าขอให้จัดงานไม่เกิน 300 คน ซึ่งพอได้ตัวเลขมาคร่าว ๆ แล้วจึงทำให้เราคัดเลือกสถานที่ได้ง่ายขึ้น) ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ณ ตอนนั้น เพื่อให้แขกที่มาร่วมงานรู้สึกสบายใจที่จะมาร่วมงานโดยที่เรายังสามารถจัดงานแต่งในแบบฉบับของเราให้ได้มากที่สุด

คุณพีท&คุณฝัน : หลังจากได้สถานที่จัดงานแต่งซึ่งเป็นส่วนสำคัญสำหรับงานของเราเรียบร้อย เราจึงเริ่มจองส่วนประกอบอื่น ๆ ของงานแต่ง ไม่ว่าจะเป็น ช่างภาพ/วิดีโอ ช่างแต่งหน้า ชุดแต่งงานบ่าว-สาว และอื่น ๆ ตามมาเป็นลำดับ สำหรับงานของพวกเราทั้งคู่ ไม่ได้ใช้ Wedding Planner เพราะ เราทั้งคู่ตั้งใจที่จะจัดงานแต่งในแบบฉบับของเราเองและคิดว่าพวกเราโชคดีที่พอจะมีเวลามาเตรียมงานด้วยตนเองได้ อย่างไรก็ตามเรามีการใช้ทีม Organizer ข้างนอกในการ รันคิวงานเฉพาะวันจริงเท่านั้น

เหตุผลที่เลือก Vala De Cia เป็นสถานที่จัดงานแต่งงาน?
  อย่างแรก คือ จริง ๆ แล้ว พวกเรามีโอกาสไปงานแต่งตามโรงแรมดัง ๆ เก่าแก่ ระดับ 5 ดาว มาค่อนข้างเยอะ เราอยากได้สถานที่จัดงานแต่งงานที่ไม่ซ้ำกับบ่าวสาวคู่อื่น ซึ่งเราพบว่า Vala De Cia พึ่งเปิดให้จัดงานแต่งในต้นปี 2565 พอดี ทำให้เราเริ่มสนใจที่จะให้ Vala De Cia มาอยู่ในลิสต์เป็นลำดับแรก ๆ

  สอง พวกเราประทับใจสไตล์การตกแต่งของตัวอาคารทั้งภายนอกและภายใน โดย Vala De Cia ให้ความรู้สึกเหมือนเราได้อยู่ในพระราชวังในฝั่งยุโรป ในยุคกลาง การตกแต่งทำได้สวยงาม ดุจดั่ง สรวงสวรรค์ หรูหรา แต่ละชั้นมี การตกแต่งที่ไม่เหมือนกัน เรารู้สึกว่าสถานที่แห่งนี้โรแมนติกมาก ๆ และสามารถเป็นสถานที่จัดงานแต่งงานในฝันของพวกเราได้

  สาม จากที่เราศึกษาข้อมูลมา ในงานหมั้นเช้าเลี้ยงเที่ยงนั้น ถ้ามีแค่ห้องเดียวเวลาที่เสร็จพิธีของงานเช้าแล้วจะต้องมีการเทิร์นห้อง จัดโต๊ะและปรับสถานที่ให้เป็นงานฉลองโดยจะต้องให้แขกออกมารอข้างนอก ที่ Vala De Cia นั้นมีห้องที่ใช้จัดพิธีหลัก ๆ อยู่ 3 ห้อง เราจึงตัดปัญหาการที่ต้องเสียเวลา เทิร์นห้องให้เสียเวลาด้วยการเลือกจัดงานหมั้นที่ห้อง De Eden บนชั้นสองของอาคารและใช้ห้อง De Heaven ที่ชั้น 3 สำหรับจัดงานเลี้ยงฉลอง ทำให้ลดเวลาการรอของแขกที่มางานเช้าในการเข้าร่วมงานฉลองตอนเที่ยงและเป็นการทำให้ Flow ของคนที่เข้ามาในงานฉลองตอนเที่ยงเป็นระเบียบเรียบร้อย 

  สี่ Vala De Cia ตอบโจทย์เราในเรื่องของพื้นที่ที่สามารถรองรับแขกที่ตั้งไว้ได้ รวมถึงรูปแบบแพ็กเกจแต่งงานต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับจำนวนแขกที่จะมาเข้าร่วมงาน สืบเนื่องมาจากความกังวลเรื่อง Covid 19 ของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย เราจึงตัดสินใจจัดเป็นแบบ Sitdown Course ที่ทุกคนจะได้มีที่นั่งของตัวเอง ไม่ต้องยืนรอนาน ไม่เดินพลุกพล่าน ไม่ต้องจับช้อนตักบุฟเฟต์ หรือ ค็อกเทล ไม่ต้องจับช้อนกลางอย่างโต๊ะจีน รวมถึงให้ความรู้สึกหรูหราอีกด้วย โดยปกติแล้วการเสิร์ฟอาหารแบบ Sitdown ทางสถานที่จะทำการเสิร์ฟทีละจานและจะต้องเลือก เสิร์ฟเหมือนกันทุกคน แต่ของเราโชคดีที่ทาง Catering เข้าใจว่ามีแขกที่มามีความหลากหลาย ทั้งทานเจ ไม่ทานเนื้อ เด็กเล็ก หรือ ชอบทานไม่เหมือนกัน Catering จึงเสนอตัวเลือกให้แขกเราสามารถเลือก Starter Main Course และ ของหวานเองได้โดยมี Choice ให้ ในประเด็นนี้ ทางสถานที่ Vala De Cia ซึ่งเป็นผู้ประสานงานและดูแลในส่วนอาหารกับ Catering โดยตรง สามารถจัดในรูปแบบที่พวกเราต้องการได้ใน Budget ที่เหมาะสม ทำให้เราค่อนข้างประทับใจในจุดนี้มาก

  ห้า เราประทับใจ Staff ของ Vala De Cia ตั้งแต่วันแรกที่ได้ไปเยี่ยมชมสถานที่ ทุกคนมีความเป็นมืออาชีพมาก ๆ และผ่านประสบการณ์การจัดงานแต่งจากที่อื่นมานับไม่ถ้วน ทำให้เรารู้สึกมั่นใจและเชื่อใจกระบวนการทำงานของ Staff ในการช่วย Support เราในส่วนต่าง ๆ ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง

หาก เป็นรายละเอียดอื่น ๆ เล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งถูกใจเราทั้งสองคน อาทิเช่น ตึกจอดรถที่สามารถรองรับจำนวนรถได้มากกว่า 600 คนด้านหลัง ที่เชื่อมต่อกับอาคารโดยตรง ช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้กับแขกได้เป็นอย่างมาก และ จอ LED ขนาดยักษ์ที่ช่วยฉายวิดีโอกราฟิก และ Motion graphic ที่เตรียมมาได้คมชัด (จอที่นี่พิเศษอยู่อย่างหนึ่งคือ เป็นจอรุ่นใหม่ที่ถ่ายรูปหรือถ่ายวิดีโอแล้วไม่ขึ้นเป็นเส้น ๆ)

อีกหนึ่งสิ่งคือ เราชอบห้องพัก VIP ที่สถานที่เตรียมไว้ให้พิเศษ ในกรณีที่แขกงานเช้าบางท่านจำเป็นต้องเปลี่ยนชุด หรือเข้ามาพักผ่อนระหว่างพิธี มีห้องสำหรับให้เพื่อนเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าสาวแต่งตัว เก็บของ มีห้องสำหรับให้ศิลปิน นักแสดงเก็บตัว สถานที่มีห้องพักไว้สำหรับให้บ่าวสาวได้นอนเตรียมตัวก่อน-หลังวันแต่งงาน มีห้องน้ำค่อนข้างเยอะ มีลิฟท์กับบันไดไว้อำนวยความสะดวกทั้งด้านหน้าด้านหลัง นอกจากนี้สำหรับคนที่อยากไปต่อหลังงานแต่งเสร็จเรียบร้อย ทางสถานที่ จะมีร้านอาหารกึ่งผับชั้นดาดฟ้าของตึกเปิดยาวถึงตีสอง อีกอย่างที่เราชอบคือ เราชอบ ความอลังการของ “Chandelier ยักษ์ของที่นี่ ซึ่งเราไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน”

งานหมั้นช่วงเช้า : เป็นบรรยากาศที่สบาย ๆ สวยงามและอบอุ่นของสมาชิกในครอบครัวทั้งสองฝั่งของเราทั้งคู่ โดยเราจะเน้นไปที่พิธีการที่สำคัญ ๆ ตามความเชื่อของผู้ใหญ่ของครอบครัวของเราทั้งสอง เพื่อเป็นการให้เกียรติกับครอบครัวของเราทั้งคู่

งานเลี้ยงฉลองช่วงเที่ยง : เป็นบรรยากาศที่สวยงามและโรแมนติก เหมือนกับอยู่ในเทพนิยาย โดยบรรยากาศในช่วงนี้ จะเน้นอารมณ์ความรู้สึกให้ผู้มาร่วมงานรู้สึกอินไปกับสถานที่ อาหาร การตกแต่ง บทเพลงและบรรยากาศตาม  ธีม “Enchanted Forest” ของเรา ที่สำคัญ ในช่วงเลี้ยงฉลองจะเป็นช่วงที่เรามีความสุขมาก ๆ เพราะได้มีโอกาสได้เห็นแขกที่มาร่วมงานทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็น ครอบครัว เพื่อน ๆ ของเราทั้งคู่ ผู้ใหญ่และบุคคลที่เราเคารพมาร่วมยินดี เป็นสักขีพยานให้กับความรักของเราทั้งสอง

งาน After Party : เป็นบรรยากาศมันส์ ๆ สนุก ๆ เป็นกันเองอย่างที่สุด โดยแขกที่อยู่ในช่วงนี้ หลัก ๆ จะเป็นเพื่อน ๆ รุ่นราวคราวเดียวกัน เราเน้นปาร์ตี้กันให้สนุก Free Flow เครื่องดื่มจนจบงาน มีดีเจ นักร้อง (วง The Parkinson) แสง-สี-เสียง ครบ ให้มันเต็มที่สุด ๆ

สิ่งที่ประทับใจที่สุดในวันงาน คือ การได้เห็นภาพที่เราวาดฝันไว้ในหัว ถูกรังสรรค์ให้เกิดขึ้นจริง ซึ่งจริง ๆ แล้ว เราทั้งคู่ ทุ่มเท ตั้งใจจัดงานแต่งครั้งนี้ให้ออกมาให้ดีที่สุด เราพยายามเก็บรายละเอียดให้ได้มากที่สุดไม่ว่าจะเป็นการเลือก ดังนี้

 Decoration ให้แมทช์กับธีมโดยรวมของงาน ซึ่งเราต้องการให้เป็น Enchanted Forest ที่มีกลิ่นอายของเวทย์มนต์และมีสัตว์ต่าง ๆ อยู่รายล้อม ตัว Backdrop เราเน้นสัตว์นานาชนิด ได้แก่ นก กระรอก หงส์ ผีเสื้อ กวาง กระต่าย หรือแม้แต่ ตัวทิงเกอร์เบลจากเรื่องปีเตอร์แพน
 การเลือกเพลง ที่จะให้วงมาเล่นทั้งตอนก่อนเปิดตัว ตอนทำพิธีและตอนหลังเสร็จพิธี โดยเราเลือกเพลง You Are The Reason, Perfect และ รัก (ปุ๊ อัญชลี) มาจากลิสต์เพลงนับร้อยที่ทางวงดนตรีส่งให้

 เราเป็นคนระบุ  Mood & Tone ของฝ่ายควบคุมแสง สี เสียง ระหว่างงานเลี้ยงฉลองด้วยตัวเอง
 ลิสต์อาหารทุกอย่างที่แขกที่มางานได้รับประทานพวกเราทำการ Tasting ด้วยตัวเองมาทุก ๆ เมนู
 รายละเอียดพิธีและ Timing ต่าง ๆ ลงไปใน Sequence ที่ต้องวางแผนอย่างละเอียดเนื่องจากเรามีเวลาค่อนข้างจำกัด

“พวกเราภูมิใจที่สิ่งที่เราวางแผนไว้ร่วมปี ลงรายละเอียดทุกอย่าง ออกมาได้เป็นดั่งใจและเกินความคาดหมายที่ตั้งใจไว้ เราดีใจที่แขกที่มาร่วมงานประทับใจงานแต่งของเราโดยหลาย ๆ คนบอกพวกเราว่า เป็นงานแต่งที่ดีที่สุดงานนึงที่เคยไปมา ทำให้เรารู้สึกหายเหนื่อยอย่างเป็นที่สุด”

คุณพีท : อีกหนึ่งความประทับใจที่สุดของผม คือ ช่วงงานเลี้ยงฉลอง ผมมี Surprise ให้กับเจ้าสาว (คุณฝัน) โดยทำทีเป็นว่าผมจะร้องเพลงให้เจ้าสาวแต่พอเริ่มมีเสียงร้องดังขึ้นกลับเป็นเสียงร้องสด ๆ ของ พี่บี พีระพัฒน์ ซึ่งเป็นศิลปินคนโปรดของคุณฝัน โดยผมได้เรียนเชิญพี่บี ให้มาร้องเพลงเจ้าหญิง และ ดินแดนแห่งความรัก ให้กับเราทั้งคู่ การ Surprise ในครั้งนี้นับว่าผ่านไปได้ด้วยดี ผมได้เห็นรอยยิ้มและแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความดีใจสุด surprise ของคุณฝัน นับเป็นภาพที่ผมประทับใจและปลาบปลื้มที่สุดในวันงานอีกภาพหนึ่งในวันงาน

 ฝากถึงว่าที่บ่าวสาวที่กำลังวางแผนเตรียมตัวแต่งงาน 

ก่อนอื่นเลยพวกเราทั้งคู่ก็อยากจะเป็นกำลังใจให้กับว่าที่เจ้าบ่าว เจ้าสาว ที่มีแพลนว่าจะแต่งงานและกำลังหาข้อมูลในช่วงนี้ ขอให้ทุกอย่างราบรื่นไปด้วยดี พวกเราเคยผ่านจุดที่ทุกคนกำลังประสบอยู่และเรารู้ว่ามันไม่ง่ายเลยสำหรับคนที่ไม่เคยจัดงานแต่งงานมาก่อน เพราะจะมีข้อมูลที่เกี่ยวกับการแต่งงานมากมายเข้ามาให้พิจารณารวมถึงมีคนที่คอยแนะนำต่าง ๆ มากมาย ดังนั้นเราจึงอยากให้ทางบ่าว-สาว หมั่นคุยกันตลอดในช่วงเตรียมการเพื่อที่จะสามารถพิจารณาเลือกสิ่งที่ถูกใจของทั้งคู่ให้มากที่สุด  ยกตัวอย่างเช่น ในการเลือกสถานที่จัดงานแต่งของคู่เรา ผู้ใหญ่จะแนะนำให้ไปจัดที่โรงแรมหรู 5 ดาว จัดงานที่รับจำนวนแขกได้เป็นพันคนและจัดอาหารเลี้ยงแบบโต๊ะจีน หรือ ไม่ก็บุฟเฟ่ต์ เนื่องจากผู้ใหญ่ท่านจะคุ้นเคยกับงานแต่งงานใหญ่ ๆ ช่วงก่อน Covid 19 อย่างไรก็ตามเราได้เรียนแจ้งผู้ใหญ่อย่างเคารพด้วยเหตุผลว่า เราอยากจัดงานแต่งงานในเวอร์ชั่นของพวกเราเอง มีการตกแต่ง ธีมงานที่พวกเราเลือกเอง ขนาดแขกที่มาร่วมงานอาจจะไม่เยอะมากและอยากให้เป็นการเสิร์ฟอาหารแบบ Sit Down Table ในส่วนของชำร่วยที่จะแจกให้กับแขกที่มางานนั้น ทางคุณฝัน ก็อยากให้เป็น Pop Corn เพราะตัวคุณฝันเองเค้าเป็นคนชอบดูหนัง ดูละคร ดู Netflix เป็นประจำ จึงอยากให้ของชำร่วยสะท้อนตัวตนของเค้ามากที่สุด หรืออย่างการ์ดที่แจกเรียนเชิญแขกมางานนั้นจะเป็นกรอบรูปอะคริลิคมีตัวการ์ดอยู่ข้างในกรอบ ห่อด้วยซองใส โดยเราตั้งใจว่าจะให้แขกที่มางานใส่รูปขนาด 4×6 ที่ถ่ายจาก Studio Booth หน้างานเข้าไป นี่เป็นเพียงตัวอย่างรายละเอียดในงานที่เราสองคนช่วยกันคิดและออกแบบด้วยกันเอง ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วถึงงานแต่งของพวกเราจะแตกต่างจากงานแต่งแบบเดิม ๆ ที่ผู้ใหญ่ได้เคยไปมา พวกเราทั้งสองคนก็ได้รับคำชมจากผู้ใหญ่ว่าจัดงานออกมาได้ดีมาก

พวกเราอยากแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการวางแผนการจัดงานสำหรับ บ่าว-สาว ที่กำลังจะแต่งงานว่า อยากให้เริ่มวางแผนงานแต่งให้เร็วที่สุดและพยายามมีเวลากับมันให้ได้มากที่สุด งานแต่งมีหลายรายละเอียด detail ปลีกย่อยเต็มไปหมด ซึ่งอยากให้ทำเป็น Checklist ออกมาและเตรียมการไว้เลยว่า สิ่งไหนควรจะทำช่วงไหน สิ่งไหนยังไม่เริ่มทำ สิ่งไหนทำแล้วแต่ยังไม่เสร็จ สิ่งไหนทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว พอใกล้วันงานจะได้ไม่กังวล Panic เครียดจนเกินไป

อีกอย่างที่พวกเราอยากฝากไว้ การเตรียมงานแต่งงาน เป็นกระบวนการที่ ว่าที่ เจ้าบ่าว-เจ้าสาวทั้งสองคนควรช่วยกันทำด้วยกัน ช่วยกันออกความคิด ช่วยกันออกไอเดีย จะให้คนใดคนหนึ่งรับผิดชอบไม่ได้ เพราะนี่คืองานของพวกคุณทั้งคู่ เมื่อเรามองย้อนกลับไป เรามองว่ามันเป็น experience ที่มีคุณค่ามาก เพราะการเตรียมงานแต่งของเรา ทำให้เราทั้งคู่เข้าใจกันและกันมากขึ้น ได้เห็นมุมมองความคิดที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อน รู้สึกว่าเราเป็น Same Team ได้วางแผนทำสิ่งสำคัญให้สำเร็จร่วมกันถือเป็นบทนำเริ่มต้นของการสร้างครอบครัวด้วยกันก็ว่าได้

เราอยากแนะนำ Trick ที่เราใช้ในตอนรวบรวมรายชื่อและจำนวนแขกที่จะเข้ามาร่วมงานเพื่อให้ได้จำนวนที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด

จริง ๆ แล้วการ์ดเชิญเข้าร่วมงานแต่งงานของพวกเรามีความพิเศษกว่าการ์ดเชิญแบบทั่วไป ตรงที่ จะมี Line QR Code ให้สำหรับผู้ที่ได้รับการ์ดเชิญใช้มือถือสแกน QR Code เพื่อแอดเป็นเพื่อนใน Line เราได้สร้าง Line Official Account ขึ้นมา (คล้ายๆกับไลน์ที่ร้านค้าขายของใช้) เพื่อใช้ในการอัพเดทข้อมูลงานแต่งงานของเราต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลด้านสถานที่ วัน-เวลา แผนที่เดินทาง ธีมงานและรายละเอียดอื่น ๆ นอกจากนี้เรายังขอให้แขกแต่ละคนที่แอดเข้ามาในระบบทำการ RSVP ผ่านลิงค์ Google Survey ที่เราทำขึ้นมาเฉพาะซึ่งแขกที่ถูกเรียนเชิญสามารถกดเข้าไปทำได้ผ่านทางเมนูใน Line Official

ข้อดีของวิธีนี้ คือ ทำให้เราได้รับทราบล่วงหน้าว่ามีแขกท่านใดที่เราเรียนเชิญจะตอบรับมางานของเราและเป็นช่องทางที่ช่วยให้เราสามารถติดต่อกับแขกที่จะมางานได้ง่ายขึ้น รวมถึงสามารถรู้ข้อมูลของแขกที่จะมาเข้าร่วมงานได้อย่างละเอียด เพื่อให้สามารถเตรียมอาหารและที่นั่งให้กับแขกที่จะมาเข้าร่วมงานได้ตามต้องการ เช่น หากแขกที่มาร่วมงานไม่สามารถทานเนื้อสัตว์ได้ก็สามารถระบุได้ใน Link Survey ได้ หรือสามารถระบุจำนวนเด็กที่พามาเพื่อให้เราสามารถจัดเตรียมอาหารเด็กไว้ล่วงหน้าได้

ข้อเสียนิดเดียว คือ ผู้ใหญ่บางท่านที่ไม่ถนัดการใช้เทคโนโลยีทำให้ไม่เข้าใจวิธีการแสกน QR Code แอดไลน์ และการกดลิงค์ทำ Google Survey 

Special Thanks : 
Venue : Vala De Cia
Food : idocatering
Decoration & Motion Graphic : Batis Productions
Dress & Suit : MONIQUE Wedding
Hair Stylist : narayar_hairstylist
Make up : Ladchahaha makeup
Photo Booth : Fulfill Photo booth
Photography:
– Official & Candid : Sixtysix Visual
– Candid : MyBox รับถ่ายภาพ
Cinematography : Kanghanlom Film
Musical Band : Mild Nawin
Sound & Lighting : Goods Lighting รับจัดแสงสีเสียงในงานแต่งงาน ไฟย้อม ไฟเคลียร์ ไฟบีม ดรายไอซ์
Rings & Jewelry : Alyssa Atelier / Cartier
Sequence : Audrey Lim Wedding Planner
ของชำร่วย : M & N STORY
ของรับไหว้ : Dior
กรอบรูปที่ระลึก : Furnine เฟอร์นิเจอร์สำนักงาน
ชุดพานขันหมาก : Dreamista Studio : พานขันหมาก ให้เช่า